สุดยอดแลนด์มาร์ค ของ USAที่คนไทยชอบไป

แม้ประเทศสหรัฐอเมริกายังไม่ได้รับความนิยมในเรื่องของการท่องเที่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ยังมีความชอบไปทางยุโรปมากกว่า หรือไม่ก็เป็นฝั่งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน เป็นต้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยากจะไปเที่ยว USA สักครั้งด้วยเหมือนกัน เพราะอยากจะไปเห็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศนั้นด้วยตาตัวเองสักครั้ง แลนด์มาร์คที่ว่ามีอะไร

เทพีเสรีภาพ

แลนด์มาร์คที่กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเมื่อเราพูดถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เทพีที่มือหนึ่งถือคบเพลิงอีกมือหนึ่งถือหนังสือกฏหมาย ตั้งอยู่ที่เกาะลิเบอร์ตี้ อ่าวนิวยอร์ค นักท่องเที่ยวหลายคนนอกจากจะได้ถ่ายรูปกับเหล่าเทพีแล้ว ในเทพียังมีสามารถเดินขึ้นบันไดวนเพื่อขึ้นไปชมเมืองนิวยอร์คจากยอดเทพี(บนมงกุฎ) ได้อีกด้วย

น้ำตกไนแองการา

ประเทศอเมริกามีความสถานที่ทางธรรมชาติอันสวยงามเยอะแยะมาก น้ำตกไนแองการา เป็นหนึ่งในนั้น น้ำตกขนาดใหญ่ที่จะทำให้เราเห็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ตัวน้ำตกต้องอยู่เชื่อมต่อระหว่างรัฐนิวยอร์คประเทศสหรัฐอเมริกา กับ เมืองโทรอนโต ประเทศแคนนาดา เราสามารถนั่งเรือเข้าไปเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกใกล้ๆ ผ่านการให้บริการของทัวร์ในท้องถิ่น หากไปช่วงหน้าหน้าเราจะได้เห็นน้ำตกในเวอร์ชั่นที่เป็นน้ำแข็ง เป็นภาพที่สวยงามมาก

แอนทีโลป แคนยอน

ต่อจากน้ำตกไนแองการา เรามาชมความงามทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งคือ แอนติโลป แคนยอน แนวภูเขาที่ถูกกัดเซาะจาก ลม แสงแดด น้ำ จนทำให้ภูเขากลายเป็นเว้าแหว่งอย่างสวยงาม ร่องหินเหล่านี้ใช้เวลาอย่างน้อยๆก็พันปีสรรสร้างมันขึ้นมา บอกเลยว่าชั้นหินที่เราได้เห็นด้วยตาตัวเองรับรองว่าประทับใจแน่นอน ยิ่งช่องร่องหินที่แสงแดดลอดมานะ สุดจริง

สะพานโกลเดนเกต

เวลาเราดูหนัง ภาพยนตร์ ซีรีย์ เพลง เอ็มวี ข่าว หรือสื่อๆต่างของประเทศอเมริกา หนึ่งในสถานที่เรามักเห็นกันเสมอก็คือ สะพานโกลเด้นเกต สะพานแขวนสีแดงตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เราขอแนะนำช่วงเวลาสำคัญก็คือตอนเช้าไปชมหมอกตัดกับสะพานสีแดง แต่พอพระอาทิตย์ขึ้นแสงแดดจะเปลี่ยนสะพานนี้ให้กลายเป็นสีส้มสวยงามอย่างมากทีเดียว เชื่อเลยว่าถ้าได้เห็นใครก็ต้องชอบ

Monument valley

แลนด์มาร์คนี้เชื่อว่าคนดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ดูเอ็มวีศิลปินต่างประเทศมาต้องคุ้นตาแน่นอน ภาพของถนนที่ทอดยาวขึ้นไปจนถึง Monument Valley ภูเขาหินสีแดงรูปร่างแปลกตา นักธรณีวิทยากล่าวว่ามันมีอายุถึง 50 ล้านปีเป็นอย่างน้อย สภาพความแห้งแล้งจนเหมือนไม่มีอะไรอยู่นี่แหละคือเสน่ห์ของมัน ว่าแล้วใครยังไม่เคยไปที่ไหนก็เก็บเงินได้เลย เดี๋ยวนี้ค่าตั๋ว ค่าทัวร์ไม่ได้แพงอย่างที่คิด