Venice หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ Venezia จุดหมายปลายทางของคู่รักหลายๆคู่ ที่อยากจะไปดื่มด่ำกับความโรแมนติก แห่งแคว้น Veneto ประเทศอิตาลี สถานที่แห่งนี้มีความอลังการอย่างไม่ธรรมดา เพราะถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะเข้าด้วยกัน บริเวณทะเลสาบ Venezia อันเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอา Adriatic ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ จากความสวยงามของเมืองแห่งสายน้ำ บวกกับความน่าอยู่ของบ้านเมือง จึงทำให้ Venice ได้รับการยกย่อง พร้อมถูกตั้งฉายาให้มากมายหลายชื่อ เช่น เมืองแห่งสายน้ำ , เมืองแห่งสะพาน , เมืองแห่งแสงสว่าง , ราชินีแห่งท้องทะเล Adriatic และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ องค์การ UNESCO ยกให้ Venice เป็นหนึ่งในเมืองมรดโลก
เมืองนี้มีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 272,000 คน จึงเต็มไปด้วยความคึกคัก และสัมผัสได้ถึงชีวิต จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือลำคลองซึ่งเปรียบได้ดั่งกับท้องถนน ใช้ในการสัญจรไปมา ริมทางทั้ง 2 ฝั่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนของผู้คน อันมีสีสันสดใส รวมทั้งสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยการเดินทางจะอาศัยเรือ Gondola ลัดเลาะไปตามแม่น้ำ โดยเรือชนิดนี้เป็นเรือพายพื้นบ้านของประชาชนในแถบนี้ เป็นพาหนะหลักของการเดินทางมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี อีกทั้งยังมีมหาวิหาร St.Mark’s Basilica เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งเมือง Venice เมืองที่มีการใช้คลองในการเดินทางมากที่สุด
สถานที่ห้ามพลาด
สะพาน Ponte di Rialto
เป็นหนึ่งในจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาถ่ายรูปมาก สะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่มาก สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 แต่ต่อมาก็ได้มีการรื้อและสร้างใหม่ด้วยหิน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทาน นอกจากสะพานแห่งนี้จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างเกาะ San macro กับเกาะ San polo แล้ว บริเวณตีนสะพานทั้ง 2 ฝั่งก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร , คาเฟ่ รวมทั้งร้านขายของต่างๆ อีกมากมาย
มหาวิหาร San Marco
มหาวิหารแห่งสำคัญ สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.823 ด้วยความยาวนานขนาดนี้ จึงมีการผสมผสานศิลปะจากหลายยุคเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ Byzantine, Romanesque , Gothic , Renaissance หลังคาของมหาวิหาร San Marco สร้างแบบโดมสุเหร่าของศาสนาอิสลาม ประดับประดาไปด้วยโมเสกสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจนถึงพื้น จึงได้รับการเรียกขานว่า ‘Church of Gold’ มาตั้งแต่สมัยศตวรรษ 11
พระราชวัง Palazzo Ducale
พระราชวังสไตล์ Gothic สร้างขึ้นศตวรรษที่ 9 ภายในพระราชวังเต็มไปด้วยทองคำ และภาพจิตรกรรมมากมาย บริเวณชั้นใต้ดินของวัง มีคุกเอาไว้คุมขังนักโทษอันเชื่อมด้วยทางเดิน ไปยังสะพานเข้าสู่แดนคุมขัง สะพานนี้จึงได้รับฉายาว่า ‘สะพานถอนหายใจ’ ตามกิริยาอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานด้วยความรู้สึกหดหู่